ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นาย เชษฐา ขาวประเสริฐ ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี พันเอกผ่านศึก อนันต์พงษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (รอง ผอ.รมน.จังหวัดสุพรรณบุรี )ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลสนามคลีมีพ่อค้ายาบ้าชื่อนายสามาต อายุ 55 ปี อดีตพนักงานโรงงานผลิต EPE FOAM โฟมกันรอย ฉายาเจ๊กมาตรวัดจำปา มีชื่อในบัญชีของเจ้าหน้าที่ ปปส.และเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่มีพฤติการจำหน่ายยาบ้าในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในพื้นที่แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในจังหวัดสุพรรณบุรีบุกจับกุมเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2567 ที่ผ่านมาพร้อมของกลาง ยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกใส จำนวน 70 เม็ดอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีแต่ยังไม่เลิกขายยาเสพติด จึงสั่งการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์)
โดยนายหมวดเอก ธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.ชุดมังกร 27 เข้าตรวจสอบโดยลาดตระเวนในพื้นที่ระหว่างทางมีชายขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงเรียกตรวจสอบและตรวจค้นในตัวชายคนดังกล่าวยอมรับว่าในมียาบ้าอยู่ 7 เม็ดเพิ่งซื้อมาจากนายสามาต ราคาเม็ดละ 25บาทจ่ายเงินไป 200 บาทได้ยาบ้ามา 7 เม็ดหลังจากได้ข้อมูลรายละเอียดเจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม
กระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์)โดยนายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้าจับกุมโดยส่งสายลับเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายสามาตร โดยให้เงินสายลับ ไป 150 บาทเพื่อซื้อยาบ้าซึ่งสายลับได้ยาบ้ามา 6 เม็ดจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทราบว่านายสามาต ได้เก็บยาบ้าไว้กับตัวถ้าช้านายสามาต จะนำยาบ้าไปซ่อนที่อื่น เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าตรวจค้นแบบจู่โจมเพื่อไม่ให้ตั้งตัว พบว่าที่หน้าบ้านของนายสมมาต เป็นประตูรั้วเหล็กได้กล้องวงจรปิดเอาไว้
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนายสามาต ยืนอยู่ในบ้านกำลังเตรียมตัวจะเข้าห้องนอนเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ทำการตรวจค้นในตัวพบเงินสดแบงค์ 50 และแบงค์ 20 บาทจำนวนหนึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในบ้านโดยให้ภรรยา ของนายสามาตเดินตามดูการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และซองพลาสติกสีฟ้าอยู่ในถังขยะข้างตู้กับข้าวใกล้บกับที่นายสามาต นั่งอยู่เจ้าหน้าที่จึงเปิดซองดูพบว่าเป็นซองเปล่า
สอบถามนายสามาต ซึ่งถือว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดที่มีประสบการณ์สูงมากเนื่องจากทำอาชีพขายยาบ้ามานานกว่า 10 ปีเป็นที่รู้จักกันในวงการยาเสพติดชื่อเจ๊กมาต วัดจำปา เล่าให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฟังด้วยเสียงที่นุ่มนวลใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่าาตนประกอบอาชีพเป็นออแกไนท์รับจุดพลุในพิธีปิดเปิดงานต่างๆ และเพิ่งถูกจับเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2567 ที่ผ่านมาและประกันตัวออกมาสู้คดี ตนเลิกขายแล้วเพราะกลัวติดคุกใหญ่มาก ครั้งล่าสุดที่ถูกจับตนก็ปฏิเสธชั้นพนักงานสอบสวน ว่ายาบ้าของกลาง 70 เม็ดไม่ใช่ของตนซึ่งการปฏิเสธ เพื่อจะได้ประกันตัวง่ายถ้ารับสารภาพก็จะต้องติดคุกใหญ่เลยดังนั้นจึงปฏิเสธไว้ก่อนเจ้าหน้าที่จึงถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่านายสามาต เลิกค้าเลิกขายยาบ้าแน่ใช่ไหม นายสามาต ยืนยันเสียงแข็งว่าเลิกแล้ว เพราะกลัวติดคุกใหญ่มาก ยาบ้าในบ้านไม่มีแล้วตนซื้อมาเสพ และแจกให้ลูกน้องเสพ เพื่อจะได้มีแรงช่วยทำงานเพราะตนแก่แล้วทำงานคนเดียวไม่ไหว
โดย นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี จึงแสดงหลักฐานที่มัดตัวแบบดิ้นไม่หลุดคือเบอร์แบงค์ที่ใช้ล่อซื้อ เมื่อเจอหลักฐานจะๆนายสามาต ถึงกับปาดเหงื่อยกมือไหว้ขอเจ้าหน้าที่แบบหน้าด้านๆว่า ครั้งนี้ขอละกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ศาลากลางทันที
แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นในบ้านของนายสามาต ได้มีวัยรุ่นมีทั้งขี่จักรยานยนต์ และปั่นจักรยานสองล้อมเข้ามาในบ้านนายสามาต เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้สอบถามวัยรุ่นดังกล่าวตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ากำลังจะมาซื้อยาบ้าจากนายสามาต เพราะเป็นลูกค้าประจำนายสามาต ได้ขายยาบ้าให้เม็ดละ 25-30 บาท โดยจะส่งยาบ้าให้ลูกค้าด้วยตัวเองเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถแต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะคุมตัวนายสามาต ไปขึ้นรถ ภรรยา นายสามต อายุ 24 ปีร้องไห้วิ่งไปวิ่งมาเหมือนรู้ที่ซ่อนยาบ้าได้ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่บอกเจ้าหน้าที่อย่าเพิ่ง ขอคุยกับสามีก่อน แต่นานสามาต บอกไม่ต้องคุยเขาไม่ปล่อยเราแน่ จากนั้นได้สั่งเสียฝากฝังเมียไว้กับญาติว่าอย่าไล่ภรรยาไปอยู่ที่อื่นขอให้อยู่ที่บ้านเหมือนเดิม
เมื่อไปถึงศาลากลางภรรยานายสามาต ได้โทรศัพท์ ไปหาชายคนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นที่ปรึกษาเพื่อหาทางช่วยเหลือให้พ้นจากการถูกจับซึ่งชายคนดังกล่าวก็ทำงานเกี่ยวกับยาเสพติด โดยชายคนดังกล่าวถามว่าชุดไหนจับภรรยานายสามาต บอกชุกปกครองจังหวัดจับ ชายคนดังกล่าวบอกว่าช่วยไม่ได้หรอกเพราะชุดนี้ไม่ฟังใคร ชายคนดังกล่าวยังบอกภรรยานานสามาต อีกว่าเตือนแล้วว่ามันเริ่มดัง ให้หยุดก่อนก็ไม่เชื่อ มาถูกจับจนได้ และนายสามาต ยังบอกเจ้าหน้าที่อีกว่าที่บ้านยังมียาบ้าอีกประมาณ 90 เม็ดอยู่ในถุงใส่ ซ่อนไว้นอกบ้าน การบุกจับนายสามาต ครั้งนี้ถือเป็นการปิดจ๊อบ พ่อค้ายาในตำนาน ที่ขายยาบ้ามากว่า 10 ปีแต่ยังไม่เคยติดคุก สุดท้ายไม่รอดเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดี
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย