
แม่ร้องไห้จนเป็นลม ลูกชายวัย 16 ถูกพ่วงทับดับขณะกลับจาก ร.ร. ครูเล่านาทีสยอง
วันที่ 2 ส.ค. ร.ต.อ.โสธร สุขแก้ว รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนเสียชีวิต บนถนนสาย 340 บริเวณหมู่ 7 ก่อนถึงโรงงานผลิต EPE โฟมหรือโฟมกันรอย ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท และแพทย์เวรโรงพยาบาลสรรคบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนคุรุประชาสรรค์ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท สภาพร่างแหลกเหลว นอนจมกองเลือด ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบรถจยย.ฮอนด้าแดช สีน้ำเงินส้ม แต่งซิ่งทั้งคัน ทะเบียน กฉง 770 ชัยนาท สภาพไฟท้ายแตก เฟรมด้านข้างหลุด พลิกคว่ำอยู่ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถพ่วง 18 ล้อ สีขาว ยี่ห้ออีซูซุ หัวลากทะเบียน 70-4155 ตาก ตัวพ่วงทะเบียน 70-4156 ตาก จอดอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร มีร่องรอยการชนที่ล้อหลังของรถพ่วง โดยมี นายสนอง ตาละสา อายุ 52 ปี เป็นคนขับ ขณะที่แม่และญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงเกิดเหตุ ต่างร้ำไห้โฮจนเป็นลมล้มพับไป เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่นายสุรพงษ์ ปิ่นแก้ว ครูโรงเรียนคุรุประชาสรรค์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนขับรถตามหลังรถพ่วงมา พอถึงโรงสีใกล้ถึงทางแยกเข้าโรงเรียน มองเห็นนักเรียนกำลังขับรถออกมา และเด็กพะวงหันไปมองด้านหลังรถเหมือนมีของหล่น ขณะที่รถพ่วงขับผ่านพอดี จึงเสียหลักชนล้อหลังจองรถพ่วงตัวแม่ จนถูกตัวพ่วงเหยียบม้วนร่างเข้าไปใต้ท้องรถเสียชีวิตคาที่
ด้านนายสนอง เล่าว่า ตนขับรถขนไม้ยูคามาจาก จ.กำแพงเพชร จะไปส่งที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุมองไม่เห็นรถของเด็กนักเรียน พอมองผ่านกระจกหลังเห็นเด็กขี่รถจยย.เสียหลักพุ่งเข้ามาชนล้อหลังตัวแม่ จากนั้นถูกตัวลูกทับร่างจนเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสอบปากคำ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป