
ชายหื่นวัย 50 ลวงข่มขืนหนูน้อย 9 ขวบ สารภาพหน้าตาเฉย อ้างเด็กหลงรักตัวเอง

ชายวัย 50 ย้ายตามลูกชายมาอยู่หมู่บ้านลูกสะใภ้ได้เดือนเดียว ล่อลวงเด็กหญิง 9 ขวบไปข่มขืน อ้างเด็กหลงรักตัวเอง
(25 มิ.ย.63) นายอนุชา เรืองอมรรัตน์ นายอำแภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งนายซัว สุดแสงสังข์ ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลป่าชัน ว่ามีผู้ปกครองเข้าร้องเรียนเรื่อง หลานสาววัย 9 ขวบ ถูกชายวัย 50 ปี ที่เพิ่งมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ก่อเหตุกระทำชำเรา จึงได้มอบหมายให้นายวีรศักดิ์ บุราไกร ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายปิยะณัฐ กระจ่างจิตร์ ปลัดอำเภองานป้องกัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลับพลาชัย เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ปกครองของเด็ก ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
จากนั้นปลัดอำเภอ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันไปควบคุมตัว นายประวิทย์ อายุ 50 ปี พนักงานโรงงานซองพลาสติกกันกระแทก ซองกันกระแทกพลาสติก ได้ที่บริเวณทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 200 เมตร ซึ่งนายประวิทย์ก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.พลับพลาชัย
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายประวิทย์ ก็ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ วัย 9 ขวบจริงในกระท่อมใกล้หมู่บ้าน เมื่อประมาณวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างแบบหน้าตาเฉยว่าไม่ได้ล่อลวงหรือบังคับ แต่เด็กหลงรักตัวเอง
ขณะที่ ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย ก็ได้สอบถามข้อมูลจากเด็กและผู้ปกครองในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ส่งเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาลพลับพลาชัย เพื่อหาร่องรอยการกระทำชำเรา พร้อมทั้งจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหายอีกครั้ง ซึ่งหากมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าได้ก่อเหตุจริง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาอะไรนั้นต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน นายซัว สุดแสงสังข์ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังจากตาของ ด.ญ.วัย 9 ขวบ มาร้องเรียนกับตนเองว่าถูก นายประวิทย์ อายุ 50 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ เพิ่งมาอาศัยอยู่กับลูกชายที่มีเมียอยู่ในหมู่บ้านได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อเหตุกระทำชำเราหลานสาว ก็ได้แจ้งทางอำเภอทราบ จากนั้นทางปลัดอำเภอได้ประสานทางตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จึงได้เข้าควบคุมตัวนายประวิทย์ ชายที่ถูกกล่าวหาไปสอบสวนที่ สภ.พลับพลาชัย
ซึ่งนายประวิทย์ ก็ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุกระทำชำเรา ด.ญ.เอ จริง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้ประกันตัวเพราะเกรงจะก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งที่ผ่านมาในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย แต่นายประวิทย์ มาอาศัยในหมู่บ้านเพียงเดือนเศษก็มาก่อเหตุแบบนี้ โดยเฉพาะกับเด็กไร้เดียงสาก็เชื่อว่าถูกล่อลวงไปแน่นอน